ห้องที่ ๑๑๖ : ขุนท่องสื่อคนเก่า


           บัลไลยกัลป์มหิทธิเหี้ยมเหิมทนง
ตั้งแต่ห้าขวบอง อาจร้าย
เปนโอรสเจ้าลง กาเกียรติ์ เลิศแฮ
กาลอรรคคีฝ่ายซ้าย นาฏนนมารดา
           ไอยกาขอราพไว้ บาดาล
เจริญศุขเนานาคนาน นัยช้า
เจดปีเจดเดือนชาญ ชุบแช่ ยาเอย
กายมลื่นยืนยงกล้า กาจเกรี้ยวเดียวคนอง
           ขุนมารหาญฮึกห้าว เหิมอง อาจเอย
เถลิงสุวรรณปรางอลง กฎแก้ว
สนมนาคอเนกอนงค์ นางขับ กล่อมแฮ
ไสยาศน์เหนืออาศน์แผ้ว ผ่องพื้นอำไพ
           คราวเหตุอาเภทร้าย ลางฝัน เหนเฮย
เทพยเทิดธทายขรรค์ ขู่ก้อง
สี่กรจับกุมภัณฑ์ พับหัก สอนา
แขวะควักดวงจิตรจ้อง เจียดได้เสด็จจร
           ผวาตื่นอุระเต้น สดกดวง แดเอย
ขุกคิดนิมิตรทรวง สะดุ้ง
เหตุสองเกิดเกษปวง ญาติมิตร ไฉนนอ
ภออุไทยเรื่อรุ้ง รุ่งเร้ารังษี
           พลันทรงสรงภักตรแล้ว จรจรร
สู่สนานธารสุคันธ์ รศเร้า
ทรงเครื่องนพรัตน์อัน โออ่า องค์เอย
นางนาคพนักงานเข้า พัดแผ้วกระพือลม
           ราพจรจากห้องรัตน์ เรืองรจิต
เฝ้าพระไอยกาชิด แท่นแก้ว
นบลาเยี่ยมชนนิศร ชนกนารถ ณกรุงแฮ
แต่จากสองพระแคล้ว คลาศหน้ามานาน
          กาลนาคปิ่นพื้นภพ พาสุกรี
สดับอสุรวาที ถ่องถ้อย
ตรงอนุญาตลี ลารีบ กลับพ่อ
แม้ว่าช้าตาละห้อย ห่วงล้ำหลานขวัญ
           ตาหวังราชกิจด้าว บาดาล มอบเอย
ให้ช่วยพิทักบการ กอบรู้
จึ่งจะอภิเศกหลาน เถลิงภพ นาคนอ
ตาใคร่ทรงศีลกู้ ก่อเกื้อพรหมจรรย์
           บัลไลยกัลป์รับถ้อย ทูลขยาย
กำหนดสับตวารหมาย ไม่ช้า
บัดลากลับรีบผาย ผันสู่ ปรางแฮ
ตรัสสั่งสนมสนิทหน้า นิ่มเนื้อนวลถนอม
           สั่งเสร็จอสุรเข้า สรงชล
ชำระสระสกนธ์ เกษเกล้า
โดยเวทวิเศศมนต์ มารประ สิทธิ์นา
ทรงพระสุคนธ์เคล้า เครื่องฟุ้งจรุงใจ
           เสร็จสรงทรงสนับช้อย เชิงงอน
ภูษิตฉลององค์อร เอี่ยมพริ้ง
เกราะนวมสอดทองกร ประวิช สรวมเฮย
ตาบทิศทับทรวงสอิ้ง อิกสรอยชฎาทรง
           ออกจากปราสาทแก้ว สุรกาญจน์
แผลงฤทธิวิทยาดาล เดชห้าว
ปถวยแยกเยี่ยงทวาร ไวว่าง เปิดแฮ
รีบรัดลัดลด้าว ด่านแคว้นลงกา
           ถึงเมืองภอมืดสิ้น แสงไถง
เดินสดับสรรพเสียงใด เซียบซ้อง
พลเมืองห่อนเหนใคล คลาเช่น ก่อนฮา
สงัดเงียบพิณพาทย์ฆ้อง หลากล้ำเหลือฉงน
          วิปริตคิดเช่นร้าย เราฝัน ไฉนนอ
อสุรเหนอัศจรรย์ จิตรว้า
จำลอบสอบสารสรรพ์ สืบพระ แม่เอย
คงประจักษไป่ช้า คิดแล้วเรวจร
          ถึงวังเข้าซุ่มซุ้ม พระทวาร
ยอหัตถ์นมัสการ กึ่งเกล้า
ร่ายเวทเดชพรหมมาน สมัถมุ่ง จิตรแฮ
ตระบัดก็หายกลายเข้า สู่ห้องมาตุรงค์
           ราพคลายพระเวทให้ เหนองค์
ยูรยาตรมาดหมายตรง แท่นแก้ว
ฝ่ายกาลอรรคคีอนงค์ เนาอาศน์ นางนา
เหนพระโอรสแล้ว วิ่งว้ามาประคอง
           จูงกรตรงขึ้นแท่น ทองพราย
ทรงโศกกันแสงสยาย เกษเกล้า
เอารสตะลึงกาย กลเกี่ยง จิตรแฮ
ถามพระชนนิศร์เศร้า โศกด้วยใดไฉน
           นางทรงพิลาบรื้อ รำพรรณ
มนุษย์ลักษณรามอันอาจกล้า
คุมกระบี่พลขันธ์ ศึกพิ ฆาฏเฮย
พ่อพี่ลุงอาวว้า วุ่นม้วยมวญสหาย
           แต่พิเภกคิดร้าย ฤษยา
เปนพวกมนุษย์รามา มอบด้าว
มณโฑทิพย์โสภา เศกคู่ ครองแฮ
รามพึ่งยกพยุห์ห้าว กลับได้ตรีวาร
           สดับสารอสุรเศร้า เสียวทรวง
กอดบาทชนนีตวง เทวศไห้
พระฉัตรเพชรเสดจสรวง สุรโลกย์ แล้วเอย
หวังพระเกียรดิจักได้ ปกเกล้ากระหม่อมนาน
          สงสารบิตุเรศโอ้ อีกพระ ลุงเอย
กุมภกรรฐอินทระ ชิตม้วย
สิ้นญาติขาดวงษ์อะ สูรศักดิ์ เสื่อมแฮ
อัประยศทศทิศด้วย ดั่งนี้ดีไฉน
           ลูกก็ชายชาติเชื้อ ชาญเวท พรหมเอย
ควรคิดคุณบิตุเรศร์ ร่วมเศ้รา
แสงสาตรพระทรงเดช ใดอยู่ ขอนา
จักตอบต่อณรงค์เร้า รีบมล้างลักษณราม
           นางสดับโอรสพร้อง พลางปราม ลูกเอย
สองมนุษย์ลิงราม ฤทธิห้าว
ทั่วทิศคิดเข็ดขาม ขยาดเดช เขานอ
พ่ออย่าไปต่อท้าว แม่ท้วงจงฟัง
           เสียวโสตรพิโรธรื้อ แรงกาจ
เสียงสนั่นปราสาท สะท้าน
เปนชายชาติอสุรอาจ ออกฤทธิ ใครฤๅ
ใดจักขัดคัดค้าน แต่ข้าคงประจญ
           สดับลูกหวาดหวั่นว้า หวามจิตร หวิวนอ
สุดจักปลอบปรามคิด ขัดข้อง
นางทรงหยิบศรสิทธิ์ สุรเชฐ ส่งแฮ
พรประสาทอาจป้อง ปัดเสี้ยนเศิกไกษย์
           ราพรับเคารพแล้ว ลาจร
แสดงเดชเดินอำพร ผาดฟ้า
ข้ามโขดเฃตรสาคร ลุฝั่ง ลงเอย
ถึงวิถึใหญ่ว้า วุ่นค้นยลรอย
           เหนพนัศถนัดแท้ ทิวพฤกษ ยับนอ
เดียวโดดพิโรธคฤก ครั่นครื้น
โดยอิทธิ์มหิทธิ์ฮึก เหิมเดช แสดงแฮ
เสียงสนั่นลั่นพื้น พ่างหล้าแหลกสลาย

จบห้องที่ ๑๑๖

  เนื้อความกล่าวถึงบัลไลยกัลป์โอรสทศกัณฐ์กับนางกาลอัคคีมเหสีฝ่ายซ้าย อยู่ในเมืองบาดาลกับท้าวกาลนาคผู้เป็นอัยกา บัลไลยกัลป์ฝันร้ายว่าตนถูกเทวดาสี่กรจับหักคอและควักหัวใจ เมื่อตื่นขึ้นมารู้สึกเป็นห่วงกังวลถึงบิดามารดาและญาติพี่น้องที่กรุงลงกา จึงเข้าเฝ้าพระอัยกาขอลาไปกรุงลงกา ท้าวกาลนาคอนุญาตและบอกว่าให้รีบกลับเพื่ออภิเษกขึ้นครองเมืองบาดาล เมื่อไปถึงกรุงลงกาเห็นบ้านเมืองเงียบสงัดผิดสังเกต บัลไลยกัลป์จึงร่ายเวทพรางตัวลอบเข้าไปพบนางกาลอัคคีผู้เป็นมารดา นางเล่าว่าพระราม พระลักษณ์ และพลวานรทำศึกสังหารทศกัณฐ์และญาติวงศ์มิตรสหายหมด และอภิเษกให้พิเภกครองกรุงลงกาและยกนางมณโฑให้เป็นมเหสี ขณะนี้ พระรามยกทัพกลับกรุงอยุธยาแล้ว บัลไลยกัลป์จึงทูลมารดาว่าจะขอสังหารพระราม พระลักษณ์ให้ได้ นางกาลอัคคีไม่อาจห้ามได้ จึงมอบศรสิทธิ์สุรเชฐให้บัลไลยกัลป์ไปสู้ศึก

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “นาฏนั้นมารดา”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “อิกสร้อยชฎาทรง”